จังหวัดเชียงใหม่มีคำขวัญอยู่ว่า :
"ดอยสุเทพเป็นศรี ประเพณีเป็นสง่า บุปผชาติล้วนงามตา นามล้ำค่านครพิงค์"
ปรับให้เข้ากับจังหวัดสมุทรปราการเป็น :
"พระสมุทรเป็นศรี ประเพณีเป็นสง่า บุปผชาติล้วนงามตา นามล้ำค่าปากน้ำ-พระปะแดง"
พระสมุทรเป็นศรี : พระสมุทรเจดีย์ เป็นเจดีย์คู่บ้านคู่เมือง จังหวัดสมุทรปราการ (อำเภอพระสมุทรเจดีย์)
ประเพณีเป็นสง่า : จังหวัดสมุทรปราการมีประเพณีต่างๆ มากมาย เช่้น สงกรานต์พระปะแดง ประเพณีแห่หงส์ธงตะขาบ อ. พระปะแดง, รับบัว อ. บางพลี , งานนมัสการหลวงพ่อปาน อ. บางบ่อ, งานนมัสการพระเจดีย์กลางน้ำ อ. พระสมุทรเจดีย์, งานแห่เจ้าพ่อทัพ สำโรง อ. เมืองสมุทรปราการเป็นต้น (มีประเพณีทุกอำเภอ แต่ เด่นๆ ที่อำเภอพระปะแดง อำเภอเมืองสมุทรปราการ อำเภอพระสมุทรเจดีย์ อำเภอบางพลี อำเภอบางบ่อ)
บุปผชาติล้วนงามตา : จังหวัดสมุทรปราการมีแหล่งชมดอกไม้ เช่น สวนศรีนครเขื่อนขันธ์ จังหวัดสมุทรรปาการยังมีประเพณีรับบัว ที่ อ. บางพลีอีกด้วย (เด่นๆ ที่อำเภอพระปะแดง อำเภอบางพลี)
นามล้ำค่าปากน้ำ-พระปะแดง : จังหวัดสมุทรปราการตั้งอยู่ปากแม่น้ำเจ้าพระยา จึงมีอีกชื่อว่า เมืองปากน้ำ ส่วนพระปะแดงนั้น เป็นเมืองสมัยขอมมีชื่อเรียกว่า "พระประแดง" เดิมตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาด้านซ้ายคืออยู่ทางฝั่งตะวันออก เดิมเป็นเมืองหน้าด่านทางทะเล สมัยนั้นเรียกว่า "ปากน้ำพระประแดง" โดยตำแหน่งที่ตั้งเมืองพระประแดงเดิมช่วงศตวรรษที่ 23 นั้น ปัจจุบันตั้งอยู่ในบริเวณท่าเรือคลองเตย กรุงเทพมหานคร ส่วนเมืองนครเขื่อนขันธ์ที่สร้างขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยนั้น มิได้มีความเกี่ยวข้องกับเมืองพระประแดงเดิมแต่อย่างใด ครั้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้มีการเปลี่ยนชื่อเมืองนครเขื่อนขันธ์เป็นเมืองพระประแดง
คำว่า "พระประแดง" บ้างว่ามาจากคำว่า "ประแดง" หรือ "บาแดง" แปลว่า คนเดินหมายหรือ คนนำข่าวสาร แต่เดิมเมืองพระประแดงเป็นเมืองหน้าด่านเมื่อมีเหตุการณ์ใด ๆ เกิดขึ้น จะต้องแจ้งข่าวสารไปให้เมืองหลวง (ละโว้) ทราบโดยเร็ว
ส่วนจิตร ภูมิศักดิ์ อธิบายว่า "พระประแดง" มาจากชื่อ "พระแผดง" ซึ่งเป็นชื่อเทวรูปสำคัญที่ขุดพบสององค์ที่คลองสำโรงต่อคลองทับนางเมื่อปี พ.ศ. 2061 ซึ่งคำว่า "แผดง" มาจากคำเขมรว่า "เผฺดง" ที่ใช้เรียกเทวรูปหรือตำแหน่งยศขุนนาง โดยเชื่อว่าชื่อเมืองน่าจะเรียกตามศาลพระแผดงที่พวกขอมเคยสร้างไว้
ส่วนรุ่งโรจน์ ภิรมย์อนุกูล สันนิษฐานว่า "พระประแดง" มาจากคำว่า "กมรเตง" ที่หมายถึงเทวรูปศักดิ์สิทธิ์สององค์ดังกล่าว
"ดอยสุเทพเป็นศรี ประเพณีเป็นสง่า บุปผชาติล้วนงามตา นามล้ำค่านครพิงค์"
ปรับให้เข้ากับจังหวัดสมุทรปราการเป็น :
"พระสมุทรเป็นศรี ประเพณีเป็นสง่า บุปผชาติล้วนงามตา นามล้ำค่าปากน้ำ-พระปะแดง"
พระสมุทรเป็นศรี : พระสมุทรเจดีย์ เป็นเจดีย์คู่บ้านคู่เมือง จังหวัดสมุทรปราการ (อำเภอพระสมุทรเจดีย์)
ประเพณีเป็นสง่า : จังหวัดสมุทรปราการมีประเพณีต่างๆ มากมาย เช่้น สงกรานต์พระปะแดง ประเพณีแห่หงส์ธงตะขาบ อ. พระปะแดง, รับบัว อ. บางพลี , งานนมัสการหลวงพ่อปาน อ. บางบ่อ, งานนมัสการพระเจดีย์กลางน้ำ อ. พระสมุทรเจดีย์, งานแห่เจ้าพ่อทัพ สำโรง อ. เมืองสมุทรปราการเป็นต้น (มีประเพณีทุกอำเภอ แต่ เด่นๆ ที่อำเภอพระปะแดง อำเภอเมืองสมุทรปราการ อำเภอพระสมุทรเจดีย์ อำเภอบางพลี อำเภอบางบ่อ)
บุปผชาติล้วนงามตา : จังหวัดสมุทรปราการมีแหล่งชมดอกไม้ เช่น สวนศรีนครเขื่อนขันธ์ จังหวัดสมุทรรปาการยังมีประเพณีรับบัว ที่ อ. บางพลีอีกด้วย (เด่นๆ ที่อำเภอพระปะแดง อำเภอบางพลี)
นามล้ำค่าปากน้ำ-พระปะแดง : จังหวัดสมุทรปราการตั้งอยู่ปากแม่น้ำเจ้าพระยา จึงมีอีกชื่อว่า เมืองปากน้ำ ส่วนพระปะแดงนั้น เป็นเมืองสมัยขอมมีชื่อเรียกว่า "พระประแดง" เดิมตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาด้านซ้ายคืออยู่ทางฝั่งตะวันออก เดิมเป็นเมืองหน้าด่านทางทะเล สมัยนั้นเรียกว่า "ปากน้ำพระประแดง" โดยตำแหน่งที่ตั้งเมืองพระประแดงเดิมช่วงศตวรรษที่ 23 นั้น ปัจจุบันตั้งอยู่ในบริเวณท่าเรือคลองเตย กรุงเทพมหานคร ส่วนเมืองนครเขื่อนขันธ์ที่สร้างขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยนั้น มิได้มีความเกี่ยวข้องกับเมืองพระประแดงเดิมแต่อย่างใด ครั้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้มีการเปลี่ยนชื่อเมืองนครเขื่อนขันธ์เป็นเมืองพระประแดง
คำว่า "พระประแดง" บ้างว่ามาจากคำว่า "ประแดง" หรือ "บาแดง" แปลว่า คนเดินหมายหรือ คนนำข่าวสาร แต่เดิมเมืองพระประแดงเป็นเมืองหน้าด่านเมื่อมีเหตุการณ์ใด ๆ เกิดขึ้น จะต้องแจ้งข่าวสารไปให้เมืองหลวง (ละโว้) ทราบโดยเร็ว
ส่วนจิตร ภูมิศักดิ์ อธิบายว่า "พระประแดง" มาจากชื่อ "พระแผดง" ซึ่งเป็นชื่อเทวรูปสำคัญที่ขุดพบสององค์ที่คลองสำโรงต่อคลองทับนางเมื่อปี พ.ศ. 2061 ซึ่งคำว่า "แผดง" มาจากคำเขมรว่า "เผฺดง" ที่ใช้เรียกเทวรูปหรือตำแหน่งยศขุนนาง โดยเชื่อว่าชื่อเมืองน่าจะเรียกตามศาลพระแผดงที่พวกขอมเคยสร้างไว้
ส่วนรุ่งโรจน์ ภิรมย์อนุกูล สันนิษฐานว่า "พระประแดง" มาจากคำว่า "กมรเตง" ที่หมายถึงเทวรูปศักดิ์สิทธิ์สององค์ดังกล่าว